Miami มีอาราย??? (ตอน 1)
เป้าหมายการเยือนไมอามี่ครั้งนี้ของฉันไม่ใช่การเที่ยวอ่ะ เพราะทะเลไมอามี่ก็คงไม่ต่างจากพัทยา บางแสน หรือป่าตองบ้านเราเท่าใดนัก เพียงแต่มีเรือยอร์จ เรือสำราญลำโตๆ จอดเทียบท่ามากกว่าบ้านเราเยอะ... ก็เท่านั้นเอง (เรียกว่าใจไม่ได้ใฝ่เที่ยว ว่างั้นเหอะ)
เป้าหมายของฉันคือไปเยี่ยมเพื่อนรักสมัยมหา’ลัย ที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ตั้งแต่เขาแต่งงานติดตามสามีมาอยู่อเมริกานี่แหละ (สามีคนไทยนะ เพียงแต่เรียนที่เมกาแล้วก็ทำงานที่นั่นเลยอ่ะ) ก่อนกลับไทย ฉันจึงระบุไว้ในปฏิทินว่าต้องเยือนสักหน่อย
ทริปนี้ใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น คือวันที่ 7- 9 กุมภาพันธ์ 2552
ฉันคิดว่าจะไปนอนที่คอนโดไฮโซของเพื่อนน่ะแหละ จะได้ไม่ต้องหาโรงแรมอยู่ให้เปลืองค่าโรงแรม (ที่แพงมากๆ ) และจะได้คุยกันได้นานๆ หน่อย แต่จะหลายคืนเกินไปก็เกรงใจอ่ะดิ ดังนั้นแค่สองคืนเนี่ยแหละกำลังดี
เป้าหมายของฉันคือไปเยี่ยมเพื่อนรักสมัยมหา’ลัย ที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว ตั้งแต่เขาแต่งงานติดตามสามีมาอยู่อเมริกานี่แหละ (สามีคนไทยนะ เพียงแต่เรียนที่เมกาแล้วก็ทำงานที่นั่นเลยอ่ะ) ก่อนกลับไทย ฉันจึงระบุไว้ในปฏิทินว่าต้องเยือนสักหน่อย
ทริปนี้ใช้เวลาแค่ 3 วัน 2 คืนเท่านั้น คือวันที่ 7- 9 กุมภาพันธ์ 2552
ฉันคิดว่าจะไปนอนที่คอนโดไฮโซของเพื่อนน่ะแหละ จะได้ไม่ต้องหาโรงแรมอยู่ให้เปลืองค่าโรงแรม (ที่แพงมากๆ ) และจะได้คุยกันได้นานๆ หน่อย แต่จะหลายคืนเกินไปก็เกรงใจอ่ะดิ ดังนั้นแค่สองคืนเนี่ยแหละกำลังดี
วันแรก
เดินทางแต่เช้าตรู่อีกเช่นเคย ตีสี่ตีห้าเนี่ยแหละ พี่ชายที่แสนดีก็ต้องฝืนร่างกายตื่นแต่เช้ามาส่งฉันอีกนั่นแหละ (ก็มีพี่ชายไว้ทำไมล่ะ ใช่ไหม ใช่ไหม) เช็คอิน ขึ้นเครื่องแบบสบายๆ สไตล์สนามบินบ้านนอก HSV (Huntsville) แค่ไม่กี่ชั่วโมง ฉันก็มาถึง MIA ไมอามี่แล้ว (แวะเปลี่ยนเครื่องที่ Charlotte รัฐแคโรไลนา จริงๆ บินตรงก็ได้นะ แต่แบบ 1 stop เนี่ย ถูกกว่าเยอะมาก ฉันก็ไม่ใช่นักธุรกิจเงินล้าน เวลาเป็นเงินเป็นทองที่จะต้องเร่งรีบอะไร ฉันจึงถือโอกาสนี้ได้ชื่อว่าเคยไปมาแล้วนะ เมืองเนี้ยะ ก็แค่เหยียบสนามบินเขาน่ะ)
เพื่อนก็มารับพร้อมสามีสุดเลิฟของเธอ แล้วก็พาฉันไปกินติ่มซำร้านอาหารจีน แล้วก็พาไปเดินชายหาดไมอามี่ (ฉันไม่อยากถ่ายรูปตัวเองกับหาดเลย เพราะฉันแต่งตัวมาไม่ได้เข้ากับทะเลแสนสวยเลยอ่ะ ฉันอยู่ในชุดเต็มยศจากเมืองหนาวมาเลยนะ ถึงแม้ว่าไมอามี่วันนี้ยังคงมีลมหนาวให้รู้สึกเย็นอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับเรียกว่าหนาวหรอก)
หาดไมอามี่ ช่างสวยงามแบบเสแสร้งมากๆ เพราะเป็นหาดทรายขาวราบเรียบ ไม่มีต้นไม้ ไม่มีโขดหิน ไม่มีแนวภูเขา มันมีแต่หาดทรายขาวๆ กับน้ำทะเลฟ้าๆ สีพาสเทล สวยเหมือนโปสการ์ดไม่มีผิด (พอตอนเย็นระหว่างวงสนทนาในมื้อเย็น ฉันจึงบอกความคิดของฉันไปว่า มันเป็นหาดเสแสร้งมากๆ สามีเพื่อนรักจึงเฉลยว่า จริงๆ แล้วมันก็เป็นหาดเสแสร้งจริงๆ นั่นแหละ เพราะเป็นหาดมนุษย์สร้างอ่ะ ไม่ใช่ธรรมชาติสร้างสรรค์ เอ๊... ไม่น่า สวยแบบไม่มีที่ติเหมือนพวกทำศัลยกรรมตกแต่งเลยอ่ะ)
ฉันไม่ได้ชื่นชอบหาดและทะเลที่นี่สักเท่าไหร่ (คงเป็นเพราะเห็นทะเลที่สวยกว่านี้มาแล้วมากมาย ทั้งๆที่ไม่อยากเปรียบเทียบหรอกนะ แต่สมองมันปฏิบัติการไปเอง South Beach ที่เขาว่าสวยที่สุดในไมอามี่แล้ว ฉันยังเฉยๆ เลยอ่ะ)
เพื่อนก็บอกแล้วล่ะ ว่าที่นี่ไม่ค่อยมีอะไร (แต่ฉันมักจะไม่ค่อยเชื่อคนพื้นถิ่นที่มักจะบอกว่าบ้านเมืองตัวเองไม่มีอะไรหรอก เหมือนกับเพื่อนฉันที่เป็นเจ้าของรีสอร์ทที่พังงานั่นแหละ มักจะบอกว่าไม่มีอะไรๆ แต่ฉันก็ประทับใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าทุกที เป็นเพราะเขาอยู่กับมันทุกวัน จึงรู้สึกเฉยๆ กับความงามที่เห็นอยู่ทุกวันจนชิน เหมือนเราเห็นวัดพระแก้วแล้วเราเฉยๆ น่ะ แต่ฝรั่งจะชื่นชอบมาก)
แล้วเพื่อนฉันก็พาไปเดินแหล่งช็อปปิ้งทั้งแบรนด์เนมและไม่แบรนด์เนมทั้งหลาย แต่ฉันไม่ใช่ขาช็อบน่ะก็เลยเฉยๆ (ก็ห้างที่นิวยอร์กใหญ่กว่า เยอะกว่า ฉันยังเมินได้เลย)
แล้วก็กลับมาพักผ่อนที่คอนโดไฮโซ โอ้ว... มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเรือยอร์จลำโตๆ จอดอยู่หน้าคอนโด
มองลงไปเบื้องล่างเห็นทะเล ห้างสรรพสินค้า หอนาฬิกา ถนนและวิวสวยๆ แหม... เพื่อนมีชีวิตประจำวันเหมือนชีวิต vacation จริงๆ เลย (วันนี้อากาศหนาว จึงไม่เห็นสาวๆ นุ่งบิกินี่มาเล่นน้ำที่สระน้ำกับที่หาดเลยอ่ะ)
เพื่อนบอกว่าชีสเค้กที่นี่อร่อยมาก อาร์ตต้องลอง ฉันก็ว่านอนสอนง่ายนะ ลองสิ... อั้ม... ลองแล้ว... แล้วไงเหรอ อร่อยมั้ย... ก็อร่อยนะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่า อร่อยมากมาย อร่อยลืมตายอะไร…
ฉันมันพวกความรู้สึกตายด้านรึเปล่าเนี่ย... นอนดีกว่า
ป้ายกำกับ: เที่ยวไมอามี่, ฟรอริด้า, หาดไมอามี่, cheese cake factory, florida, MIA, Miami, south beach
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
อ่านแล้ว อยากบอกว่า...
สมัครสมาชิก ส่งความคิดเห็น [Atom]
<< หน้าแรก