วันที่สอง
เป็นวันที่เราวางแผนกันไว้ว่า ไปเที่ยว Key West กับ Day Tour (อึ้ยส์... เที่ยวกับทัวร์เหรอ แต่ฉันเป็นคนเสนอเพื่อนไปเองแหละ เพราะเกรงใจ หากเพื่อนจะต้องขับรถไป เพราะไปกลับจากไมอามี่ก็ 5-6 ชั่วโมงแล้วน่ะ ซื้อเดย์ทัวร์นั่งมองวิวสบายๆ ดีกว่า จะไปค้างก็ต้องจองโรงแรม จองที่พัก จองรถอีก คิดสรตะแล้ว... เยอะไป ไปเช้าเย็นกลับเนี่ยแหละดีแล้ว )
แต่ฉันชอบเดย์ทัวร์อันนี้มาก เพราะเขาพาเราถึง Key West แล้วก็ปล่อยอิสระให้เราเดินเที่ยวเอง 5 ชั่วโมง ถูกใจฉันมากๆ
Key West เป็นเกาะสุดท้ายปลายทางของหมู่เกาะของ Florida Key ซึ่งหมู่เกาะเหล่านี้จะอยู่เรียงตัวกันเป็นแถวทางตอนใต้ของรัฐฟลอริดา มีเพียงถนน US 1 เท่านั้นที่จะพาไปถึงหมู่เกาะเหล่านี้ ซึ่งเป็นถนนลอยฟ้าเหนือทะเล บางช่วงเป็นถนนข้ามจากเกาะหนึ่งไปสู่อีกเกาะหนึ่ง
บางช่วงถนนก็ขาดซะงั้น (ถนนเก่าที่เขาไม่ใช้แล้วน่ะ)


ออกจากจากไมอามี่แต่เช้า ซึ่งรถทัวร์มีบริการรับ ณ จุดที่พักหน้าคอนโดเลย แล้วเราก็ถึง Key West ในช่วงบ่ายของวัน แล้วลุยเดินๆๆๆๆๆ แอนด์ถ่ายรูปกันจุใจ


เจอป้ายแบบนี้ ไปถูกกันมั้ยอ่ะ

ปลาที่ห้อยอยู่นั่นน่ะของปลอม แต่คุณลุงที่เดินอยู่น่ะของจริง (หน้าตาท่าทางเหมือนคุณลุงเออร์เนส เฮมมิ่งเวย์เลยอ่ะ หรือผู้คนเมืองนี้จะโคลนนิ่งกันออกมา) ส่วนนกรูปบนนั่นน่ะ ของจริงของปลอม ลองทายดู (เฉลย ของจริงจ้ะ)
ชอบสโลแกนเสื้อร้านเนี้ยะ
The Must ของที่นี่ก็คือเจ้าทุ่นสีสันแสบซ่าก้อนนี้เอง ซึ่งเป็นทุ่นกำหนดจุดว่าตรงนี้แหละคือใต้สุดของอเมริกาแล้วนะ อีกเพียงแค่ 90 miles ก็ถึงคิวบาแล้วอ่ะ ดังนั้นใน Key West นี้เราจึงเห็นซิการ์คิวบาขายกันเกลื่อนถนนเลย แล้วเจ้าทุ่นเนี่ยนะ เป็นพระเอกของเกาะนี้เลยทีเดียว คิวยาวเหยียดเพื่อที่จะถ่ายรูปกับเจ้าทุ่นเนี้ยะอ่ะ ฉันเลยขอบายแอบนั่งถ่าย (รูป) ด้านข้าง แล้วมีเจ้าทุ่นนี้เป็น back ก็พอ (คิวยาวยิ่งกว่าเจ้าระฆังแห่งเสรีภาพที่เมืองฟิลาเดเฟียเสียอีก โดยส่วนใหญ่คนที่ถ่ายรูปแบบต่อคิวเนี่ยก็พวกกรุ๊ปทัวร์ทั้งนั้นแหละ เพราะเป้าหมายกรุ๊ปทัวร์คือมาเที่ยวเพื่อถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของเมืองเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น ฮ่า...)
แต่ก่อนจะเดินมาถึงเจ้าทุ่นนี่ก็ต้องผ่านจุดน่าสนใจมากมาย อาทิ ตลาดฟองน้ำ(sponge market) ที่มี Sponge Bob เอ๊ย Sponge Man เป็นตัวเอกยืนโดดเด่นให้ถ่ายรูปด้วย (มีหลายตัวนะ อยากถ่ายกับตัวไหนก็เอาเลย)

ผ่าน Light House อันโดดเด่นของเกาะ แวะถ่ายรูปหน้าบ้านนักเขียนชื่อก้องโลก เฒ่าทรนงผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เออร์เนส เฮมมิ่งเวย์ ผู้เขียน The Old Man and the Sea


ฉันชอบบ้านและอาคารเก่าๆ ที่เขาอนุรักษ์ไว้ โดยมากก็จะเป็นโรงแรมและ guest house ไปหมดแล้ว
จริงๆ แล้วถ้าให้เจ๋งก็ต้องมีเวลาหลายๆ วัน ขับรถมาเที่ยวเอง แวะเที่ยวพักดำน้ำ แอนด์กิน ตามเกาะต่างๆ ที่มีจุดน่าสนใจมากมาย แต่เวลาที่ฉันกำหนดเองมีเท่านี้ 4-5 ชั่วโมงบนเกาะนี้จึงหมดไปอย่างรวดเร็ว
แล้วก็นั่งรถทัวร์กลับคอนโด เพื่อพักผ่อน
เตรียมปิ๊กบ้านอลาบาม่าจ้า
หมายเหตุ
- ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกาใต้ ดูมีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสดี (คล้ายคนบ้านเราน่ะ) อีกทั้งไม่ค่อยมีระเบียบเหมือนบ้านเราด้วย ไม่ค่อยเข้าคิว ขับรถตามใจฉัน ไม่เคารพกฎจราจร เคยอยู่ในบ้านเมืองที่อเมริกันชนเขาเคร่งครัดกับกฎระเบียบต่างๆ แล้วมาอยู่ที่นี่ก็รู้สึกแปลกๆ นะ ว่าที่นี่ใช่อเมริการึเปล่า เพราะภาษาหลักน่ะไม่ใช่อังกฤษนะ แต่เป็นสแปนิช (ภาษาสเปน) ก็ขนาดป้ายห้องน้ำตามร้านอาหาร เขามีแต่ภาษาสเปนน่ะ กับรูปผู้หญิงผู้ชาย ฉันก็เลยดูรูปเอาน่ะ
- ฉันชอบคุณลุงคนขับรถที่เป็นไกด์แนะนำสถานที่ต่างๆ ไปด้วยในตัว เช็คตรวจนับลูกทัวร์ว่าขึ้นรถครบหรือยังด้วย มีประโยคติดปากแกเลยคือ “Be my guest” แล้วแกก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีมากๆ หัวใจบริการโดยแท้เชียว
- ขอบคุณเพื่อนรักและสามีแสนดีของเธอที่เอื้ออำนวยความสะดวกสบายและที่พักตลอดสามวันสองคืนที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ป้ายกำกับ: เที่ยวคีย์เวส ไมอามี่ ฟอริด้า, key lime pie, key west, southernmost point, sponge man, sponge market